ทำไม ‘ประเทศไทย’ ถึงเป็นศูนย์กลางของการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Medical Tourism)
September 29, 2020
ประเทศไทย นอกจากจะเป็นจุดหมายในการท่องเที่ยวยอดนิยมในภูมิภาคเอเชียแล้ว ยังเป็นหนึ่งในประเทศปลายทางสำหรับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่ครอบคลุม รองจากประเทศเกาหลีใต้ ทำไมประเทศไทยถึงเป็นแหล่งรองรับคนไข้ข้ามพรมแดนจากทั่วทุกมุมโลก? หาคำตอบได้ที่นี่
การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Medical Tourism) คืออะไร
การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ คือ การท่องเที่ยวไปยังประเทศอื่นๆ เพื่อรับบริการทางการแพทย์ สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 รูปแบบ ได้แก่ การท่องเที่ยวเพื่อรับบริการทางการแพทย์แบบทั่วไป การท่องเที่ยวพร้อมการทำศัลยกรรม และการท่องเที่ยวพร้อมการทำทันตกรรม โดยทั่วไปแล้ว ผู้รับบริการส่วนใหญ่มักเดินทางมายังประเทศไทยเพื่อรับบริการด้านศัลยกรรมและทันตกรรม
การทำศัลยกรรมเสริมความงามที่ได้รับความนิยม ได้แก่ การทำหน้าอก การผ่าตัดยกกระชับสะโพก ทันตกรรมรากฟันเทียม นอกจากนี้ ผู้รับบริการจำนวนมากยังเดินทางมาเพื่อเข้ารับการผ่าตัดตา การปลูกถ่ายอวัยวะ การผ่าตัดกระดูกสันหลัง การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าหรือข้อสะโพกเทียม รวมถึงเข้ารับการรักษาภาวะมีบุตรยาก
ในปีที่ผ่านมา การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของประเทศไทยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นในอนาคต เราจึงได้รวบรวมสาเหตุที่ทำให้ประเทศไทยเป็นหนึ่งในตัวเลือกอันดับแรกๆ ของการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ดังนี้
1. ราคาของการบริการถูกกว่าประเทศอื่นๆ
บริการทางการแพทย์ของประเทศไทย ทั้งด้านศัลยกรรมและทันตกรรม มีราคาถูกกว่าประเทศอื่นๆ เป็นอย่างมาก หากเปรียบเทียบกับบริการทางการแพทย์ในประเทศสหรัฐอเมริกาและออสเตรเลีย ค่าใช้จ่ายอาจต่ำกว่าประมาณ 40-70% ดังนั้น ผู้รับบริการจากหลายประเทศจึงเลือกเดินทางมายังประเทศไทย เพื่อรับการรักษาที่ได้มาตรฐานระดับสากลในราคาที่เข้าถึงได้
ยกตัวอย่างเช่น กรณีของประเทศออสเตรเลีย ผู้รับบริการอาจจะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการอุดฟันเป็นจำนวนกว่า 200 ดอลล่าร์ ในขณะที่บริการอุดฟันในประเทศไทย มีค่าใช้จ่ายเพียง 30 ดอลล่าร์เท่านั้น ด้วยราคาที่แตกต่างกันมาก ผู้คนจากประเทศออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ สหรัฐอเมริกา และประเทศแถบยุโรป จึงมักเดินทางมายังประเทศไทยเพื่อรับบริการด้านทันตกรรมที่ได้มาตรฐาน
2. บุคคลาการทางการแพทย์มีความเชี่ยวชาญ
นอกจากราคาของบริการทางการแพทย์ที่ถูกกว่าและเข้าถึงได้ บุคลากรทางการแพทย์ เช่น หมอศัลยกรรม นักกายภาพบำบัด พยาบาล และบุคลากรอื่นๆ ยังมีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง และสามารถใช้เทคโนโลยีชั้นสูงในการให้บริการที่มีคุณภาพมาตรฐานระดับสากล
นอกจากนี้ สถานพยาบาลและคลินิกเสริมความงามในประเทศไทย จะต้องมีใบอนุญาตประกอบกิจการ และให้บริการศัลยกรรมตกแต่งโดยหมอศัลยกรรมมืออาชีพที่มีใบรับรองเท่านั้น ลูกค้าจึงมั่นใจได้ว่าจะได้รับบริการที่มีความปลอดภัยและมีคุณภาพ
3. สถานพยาบาลที่ได้มาตรฐานและมีคุณภาพสูง
สถานพยาบาลชั้นนำหลายแห่งในประเทศไทยสามารถให้บริการทางการแพทย์ที่ได้มาตรฐานระดับสากล และมีบริการให้คำปรึกษาสำหรับการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ รวมถึงบริการแปลภาษาแก่ผู้รับบริการชาวต่างชาติ
ห้องพักผู้ป่วยในสถานพยาบาลยังมีขนาดใหญ่ มีห้องนั่งเล่น และห้องครัวขนาดเล็ก พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ เช่น Wi-Fi สถานพยาบาลบางแห่งยังมีบริการต่อวีซ่าสำหรับผู้รับบริการ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์เป็นอย่างยิ่ง
และนอกจากอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่มีคุณภาพสูง สถานพยาบาลในประเทศไทยยังมีอัตราส่วนของพยาบาลต่อผู้ป่วยประมาณ 4:1 ซึ่งถือว่าน้อยมากถ้าเทียบกับประเทศออสเตรเลียที่มีอัตราส่วนเท่ากับ 8:1 ลูกค้าจึงมั่นใจได้ว่าจะได้รับการบริการอย่างทั่วถึง
4. การบริการเพื่อสุขภาพที่ครอบคลุมและหลากหลาย
สถานพยาบาลในประเทศไทยมักมีบริการเพื่อสุขภาพที่ครอบคลุมและหลากหลาย ทั้งแพทย์แผนปัจจุบันและแพทย์ทางเลือก เพื่อรักษาบำบัดอาการทางร่างกาย จิตใจ และคลายความเครียด เช่น การกดจุด การครอบแก้ว การฝังเข็ม และการนวดแผนไทยอันเป็นเอกลักษณ์ ที่สามารถช่วยบรรเทาอาการเมื่อยล้า คลายความเครียดและความกังวล พร้อมทั้งปรับสร้างความสมดุลให้กับร่างกายและจิตใจ
ในเมืองใหญ่ เช่น กรุงเทพฯ และเชียงใหม่ จึงมีบริการร้านสปาและร้านนวดหลายแห่ง ที่ให้บริการนวดยกกระชับผิวหน้า นวดน้ำมันอโรมา นวดจับเส้น นวดสวีดิช รวมถึงบริการอื่นๆ และไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวเพื่อรับบริการทางการแพทย์ด้วยตัวเอง หรือเดินทางเพื่อมาส่งในครอบครัวเข้ารับบริการทางการแพทย์ คุณก็สามารถรับบริการนวดเพื่อสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดีได้
หากคุณเดินทางมาเพื่อท่องเที่ยวผ่อนคลาย และอยากรับบริการนวดถึงที่โรงแรมหรือที่คอนโด คุณสามารถเรียกรับบริการนวดนอกสถานที่จาก RLAX และรอรับบริการนวดคุณภาพระดับสปา จากเทอราปิสผู้เชี่ยวชาญ ในสถานที่ที่คุณกำหนดเอง เรียกบริการนวดได้แล้ววันนี้