What Is Office Syndrome And How To Prevent It

โรคออฟฟิศซินโดรม (Office syndrome) คืออะไร มีวิธีป้องกันอย่างไร

September 15, 2020

าการปวดตึงบริเวณหลัง ไหล่ และคอ มักพบได้บ่อยในผู้ที่นั่งทำงานในออฟฟิศเป็นประจำ คุณรู้หรือไม่ว่าอาการปวดที่มาๆ หายๆ เหล่านี้ อาจจะเป็นสัญญาณเตือนของโรคออฟฟิศซินโดรม ที่หากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาวได้

อาการออฟฟิศซินโดรมเป็นภัยเงียบที่ไม่ควรองข้าม เพราะถึงแม้ว่าจะมีอาการแรกเริ่มที่ไม่รุนแรง แต่ความเจ็บปวดตามกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ก็สามารถสะสมกลายเป็นอาการปวดเรื้อรัง และเสี่ยงต่อการเกิดโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทได้ เพราะฉะนั้นหากรู้สึกตัวว่ามีอาการปวดบริเวณหลังหรือช่วงไหล่เป็นประจำ คุณควรไปพบแพทย์และเข้ารับการรักษาก่อนที่จะสายเกินไป

อาการของโรคออฟฟิศซินโดรม

ผู้ที่มีอาการของโรคออฟฟิศซินโดรม อาจจะเผชิญกับอาการเหล่านี้ ได้แก่:

  • ปวดเมื่อย รู้สึกเจ็บแปลบบริเวณคอ บ่า ไหล่ และหลังช่วงล่าง
  • มึนและปวดร้าวศีรษะ ปวดไมเกรน
  • ปวดแขนและข้อมือ
  • มีอาการชาและอ่อนแรงบริเวณแขนและมือ เนื่องจากระบบประสาทถูกกดทับ
  • ตาล้าเนื่องจากจ้องจอคอมพิวเตอร์นานๆ

นอกจากนี้ อาการเจ็บปวดเรื้อรังที่เกิดจากโรคออฟฟิศซินโดรมยังสามารถส่งผลต่อสภาวะจิตใจและอารมณ์ได้ โดยผู้ป่วยอาจรู้สึกเครียดและซึมเศร้า หากคุณมีอาการเหล่านี้ เราแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ทันที เพื่อรับการรักษาที่ถูกต้อง

Download app

ดาวน์โหลดแอปและจองบริการนวดนอกสถานที่ได้แล้ววันนี้

app-store-badget
google-play-badget

สาเหตุของโรคออฟฟิศซินโดรม

สาเหตุหลักของการเกิดโรคออฟฟิศซินโดรมมักมาจากการนั่งทำงานในอิริยาบทเดิมเป็นเวลานานๆ ทำให้กล้ามเนื้อมัดเดิมเกิดอาการเกร็งสะสมต่อเนื่อง จนเกิดอาการปวดเรื้อรังในที่สุด นอกจากนี้ การนั่งไขว่ห้างจนติดเป็นนิสัย ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการปวดกล้ามเนื้อบริเวณหลัง ไหล่ และคอ เนื่องจากการนั่งไขว่ห้างจะเป็นการถ่ายน้ำหนักไปที่ขาข้างเดียว ทำให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวก

สาเหตุอื่นๆ ของโรคออฟฟิศซินโดรมอาจมาจากการนั่งทำงานในอิริยาบถที่ไม่เหมาะสม เช่น การนั่งห่อไหล่ นั่งหลังค่อม นั่งไม่เต็มก้น นั่งกอดอก และการนอนตะแคงเพียงด้านเดียวโดยไม่พลิกตัว การนอนอ่านหนังสือในท่าที่ไม่ถูกต้อง หรือการใส่ส้นสูงเป็นเวลานานๆ ก็สามารถส่งผลโดยตรงต่ออาการปวดเมื่อยบริเวณกระดูกสันหลังและคอได้

วิธีป้องกันการเกิดออฟฟิศซินโดรม

วิธีการป้องกันความเสี่ยงของโรคออฟฟิศซินโดรมสามารถทำได้หลายวิธี ได้แก่:

  • เลือกเฟอร์นิเจอร์ที่เหมาะสม: เลือกซื้อเก้าอี้ ergonomic หรือเก้าอี้ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับสรีระของผู้ใช้งาน ทำให้คุณนั่งทำงานได้โดยไม่ปวดเมื่อย
  • ย้ายและจัดตำแหน่งหน้าจอคอมพิวเตอร์ให้เหมาะสม: จัดตำแหน่งหน้าจอให้ในระดับสายตา และให้อยู่ห่างจากตัวประมาณ 1 ช่วงแขน
  • ปรับเปลี่ยนอิริยาบถในการทำงาน: ปรับเปลี่ยนท่านั่งทุกๆ 20-30 นาที
  • ยืดและขยับร่างกายบ่อยๆ: ยืด แขน ขา ขยับร่างกาย ด้วยการเดินรอบๆ เพื่อให้กล้ามเนื้อส่วนต่างๆ คลายตัว
  • นั่งหลังตรง​: พยายามยามนั่งให้หลังชิดกับพนักเก้าอี้เสมอ และนั่งเก้าอี้ให้เต็มก้น
  • พักสายตาบ่อยๆ: พักสายตาทุกๆ 10 นาที โดยมองออกไปนอกหน้าต่าง เพื่อไม่ให้สายตาล้าเกินไป
  • ทำงานในที่ๆมีแสงเพียงพอ: ติดตั้งไฟเพิ่มให้มีแสงเพียงพอในการทำงาน เพื่อลดการเพ่งสายตาในการทำงาน

นอกจากวิธีข้างต้นแล้ว การออกกำลังกายก็เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการบรรเทาอาการของโรคออฟฟิศซินโดรมได้ ผู้ที่มีอาการสามารถออกกำลังกาย Light weight trainning เล่นโยคะ และพิลาทิส คุณสามารถทำกิจกรรมอื่นๆ ร่วมด้วยเพื่อให้คุณได้ขยับกล้ามเนื้อและปรับท่าทางให้ดีขึ้น 

ในปัจจุบัน ผู้ให้บริการนวดหลายรายได้ออกแบบบริการนวดสำหรับรักษาอาการของโรคออฟฟิศซินโดรมโดยเฉพาะ ผู้ที่มีอาการของโรคออฟฟิศซินโดรมสามารถรับบริการนวดเพื่อคลายความปวดเมื่อยและบรรเทาอาการเจ็บปวดของกล้ามเนื้อบริเวณหลังช่วงล่าง คอ ไหล่ และอื่นๆ

RLAX เป็นผู้ให้บริการนวดนอกสถานที่ เรามีบริการนวดแก้ออฟฟิศซินโดรมโดยเทอราปิสมากประสบการณ์ ที่จะเดินทางไปให้บริการถึงที่บ้าน ที่ทำงาน และคอนโด จองบริการนวดที่สะดวกสบายที่สุดกับ RLAX ได้แล้ววันนี้

Maprang

Hi, I'm Maprang — a content writer and translator in Wellness, IT, and Hospitality industries. I believe that anything can start from being a little bit more creative! :)