การทำดิจิทัล ดีท็อกซ์ (Digital Detox) คืออะไร ดีต่อสุขภาพของเราอย่างไร
January 13, 2021
ในปัจจุบันสมาร์ทโฟนเป็นส่ิงจำเป็นในชีวิตของเรา เพราะนอกจากจะสามารถใช้ติดต่อและแบ่งปันข่าวสารกับเพื่อนๆ ในโลกออนไลน์ ยังสามารถใช้เล่นเกม วาดรูป หรือใช้งานแอปพลิเคชันอื่นๆ ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว อย่างไรก็ตามการใช้สมาร์ทโฟนมากเกินไปก็สามารถส่งผลเสียต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิตได้ การทำดิจิทัล ดีท็อกซ์ (Digital Detox) จึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ที่เสพติดสมาร์ทโฟน เพื่อคืนความสมดุลให้กับชีวิตและเพื่อให้เริ่มต้นใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับดิจิทัล ดีท็อกซ์ และประโยชน์ต่อสุขภาพที่คุณจะได้รับไปพร้อมๆ กับเราได้เลยค่ะ
ดิจิทัล ดีท็อกซ์ (Digital Detox) คืออะไร
ในโลกสังคมออนไลน์ผู้คนได้เผยแพร่ข่าวสารใหม่ๆ ในทุกวินาที จนในบางครั้งเราอาจจะไม่รู้ตัวว่าเรามีความเครียดที่เกิดจากการเสพสื่อเหล่านี้มากเกินไป หากคุณใช้สมาร์ทโฟนไปกับการทำสิ่งที่ไม่เกิดประโยชน์เกินวันละ 1 ชม. 30 นาที ก็แปลได้ว่าคุณอาจมีความเสี่ยงต่อการเสพติด หลายคนจึงเลือกทำดิจิทัล ดีท็อกซ์เพื่อคลายความเครียดและปรับสมดุลให้กับชีวิต
การทำดิจิทัล ดีท็อกซ์ (Digital Detox) คือการบำบัดอาการเสพติดสื่อดิจิทัลที่เข้าถึงได้ด้วยอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต สมาร์ททีวี หรือคอมพิวเตอร์ และถึงแม้ว่าการเลื่อนดู Instagram และ Facebook จะเป็นวิธีแก้เบื่อและช่วยฆ่าเวลาได้เป็นอย่างดี แต่จะดีกว่าไหมถ้าเราสามารถใช้เวลาเหล่านี้ไปทำกิจกรรมที่มีประโยชน์มากขึ้น
การทำดิจิทัล ดีท็อกซ์ เป็นเพียงการงดใช้งานอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ตามเวลาที่กำหนด ไม่ใช่การเลิกใช้งานอย่างถาวร ทุกคนสามารถทำดิจิทัล ดีท็อกซ์ได้ด้วยตัวเอง เพื่อจัดระเบียบความคิดและสร้างปฏิสัมพันธ์อันดีกับคนรอบข้างให้มากขึ้น ด้วยวิธีต่อไปนี้
1. ลบแอปพลิเคชันที่ทำให้คุณเสียเวลา
หากคุณรู้ตัวว่าใช้สมาร์ทโฟนเพื่อเล่นเกมหรือเล่นโซเชียลมีเดียมากเกินไป เราขอแนะนำว่าให้คุณลบแอปพลิเคชันดังกล่าวในช่วงที่ทำดิจิทัล ดีท็อกซ์ เพื่อป้องกันไม่ให้เสียสมาธิและกลับไปใช้งานอีกครั้ง พร้อมทั้งงดเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ต เพื่อไม่ให้คุณได้รับการแจ้งเตือนจากแอปเหล่านั้น
2. ใช้แอปรายงานเวลาการใช้งานหน้าจอ (Screen Time)
สมาร์ทโฟนบางรุ่นจะมีฟีเจอร์ Screen Time ที่สามารถแสดงระยะเวลาการใช้งานหน้าจอและการใช้งานแอปพลิเคชันต่างๆ รวมถึงสามารถดูรายงานย้อนหลังได้ หากสมาร์ทโฟนของคุณไม่มีฟีเจอร์ดังกล่าว คุณสามารถดาวน์โหลดแอปรายงานเวลาใช้งานหน้าจอได้ด้วยตัวเอง และสำหรับพนักงานออฟฟิศที่ทำงานอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ตลอดเวลา เมื่อกลับมาถึงบ้าน เราขอแนะนำให้ใช้งานสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตให้น้อยลงไม่เกิน 1 ชั่วโมงต่อวัน เพื่อสุขภาพที่ดีของตัวคุณเอง
3. ตั้งกฎให้กับตัวเอง
ทุกคนสามารถตั้งกฎในการใช้งานอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ให้เข้ากับชีวิตประจำวันของตัวเอง ยกตัวอย่างเช่น ห้ามเล่นมือถือตอนเช้าหลังจากตื่นนอนและก่อนเข้านอน หากคุณติดนิสัยตั้งนาฬิกาปลุกในมือถือ เราแนะนำให้เปลี่ยนไปใช้นาฬิกาปลุกแบบอนาล็อก และพยายามวางมือถือให้ไกลจากตัวมากที่สุดในตอนกลางคืน
นอกจากนี้การทำกิจวัตรประจำวันที่มีประโยชน์ก็สามารถช่วยให้คุณใช้มือถือน้อยลงได้ หลังจากตื่นนอนในตอนเช้า การจิบกาแฟและการทำโยคะจะช่วยให้ร่างกายสดชื่นและช่วยเตรียมจิตใจของเราให้พร้อมเริ่มต้นวันใหม่ และระหว่างที่รับประทานอาหารมื้อเย็นควรเลี่ยงการดูทีวีและพูดคุยกับคนในบ้านให้มากขึ้น หรือใช้เวลาทำกิจกรรมที่มีประโยชน์อื่นๆ เช่น ออกกำลังกาย อ่านหนังสือ หรือทำงานบ้าน
4. กำหนดโซนปลอดมือถือภายในบ้าน
การกำหนดโซนปลอดมือถือภายในบ้านจะช่วยให้คุณจัดสรรเวลาเพื่อทำกิจกรรมที่มีประโยชน์มากขึ้น ตัวอย่างการกำหนดโซนปลอดมือถือ เช่น ห้ามเล่นมือถือในห้องนอน ห้ามเล่นขณะรับประทานอาหาร หรือห้ามเล่นมือถือในห้องครัวขณะทำอาหาร
5. ทำกิจกรรมที่สร้างสรรค์
การทำกิจกรรมที่สร้างสรรค์จะช่วยให้เราลืมความต้องการอยากเล่นมือถือได้ หากคุณไม่มีงานอดิเรกที่ชื่นชอบ ให้นึกถึงกิจกรรมที่อยากทำแต่ไม่มีโอกาสได้ทำ เช่น การเรียนทำอาหาร เรียนดนตรี เล่นกีฬา ท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ หรือใช้เวลาดูแลตัวเอง
6. ออกไปพบเจอกับเพื่อนๆ
หลังจากที่มีเวลาว่างมากขึ้น คุณสามารถโทรนัดเพื่อนๆ และนัดพบเจอกันในชีวิตจริง ไปเที่ยว ไปรับประทานอาหาร หรือทำกิจกรรมร่วมกัน เล่าเรื่องราว อัปเดตชีวิต และใช้เวลาร่วมกันอีกครั้งในโลกชีวิตจริง
ทำอย่างไรให้การทำดิจิทัลดีท็อกซ์เกิดประโยชน์สูงสุด
นอกจากการทำตาม 6 ข้อที่กล่าวมาข้างต้น การทำดิจิทัลดีท็อกซ์จะเกิดประโยชน์สูงสุดได้ก็ต่อเมื่อเราสามารถปรับมุมมองของเราที่มีต่อเทคโนโลยีและสื่อดิจิทัล เราต้องทำความเข้าใจว่าสิ่งที่สำคัญกว่าโลกออนไลน์คือโลกในชีวิตจริงที่เราอยู่ ดังนั้นการแบ่งเวลาให้กับโลกออนไลน์อย่างเหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญ
การทำดิจิทัลดีท็อกซ์ในช่วงแรกๆ คุณอาจจะรู้สึกหงุดหงิด กระวนกระวายใจ แต่หากทำได้อย่างต่อเนื่อง คุณจะรู้สึกสบายใจและมีอิสระมากขึ้น เพราะการทำดิจิทัลดีท็อกซ์จะเปิดโอกาสให้คุณเปลี่ยนแปลงชีวิตและรู้ทันความต้องการของตัวเอง อย่างไรก็ตามหากคุณรู้สึกว่าตัวเองมีอาการเสพติดสมาร์ทโฟนขั้นรุนแรง เราแนะนำว่าควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับการช่วยเหลือ
หากคุณกำลังมองหากิจกรรมแก้เบื่อช่วงการทำดิจิทัลดีท็อกซ์ ให้ RLAX ช่วยคุณผ่อนคลายความเครียดจากโลกออนไลน์ ด้วยบริการนวดคุณภาพระดับสปาที่ส่งตรงถึงบ้านโดยที่คุณไม่ต้องออกไปรับบริการภายนอก เทอราปิสของเราผ่านการฝึกอบรมและมีใบรับรองเป็นผู้ให้บริการจากกระทรวงสาธารณสุข คุณจึงสามารถมั่นใจในมาตรฐานการบริการของเรา RLAX ให้บริการนวดหลากหลายโปรแกรม เช่น นวดแผนไทย นวดน้ำมันอโรมา และอื่นๆ จองบริการนวดกับ RLAX ได้ง่ายๆ ผ่านเว็บไซต์และแอปพลิเคชันได้แล้ววันนี้