การยืดกล้ามเนื้อหลังและความสำคัญของการนวดหลัง

January 10, 2024

เพื่อรักษาสุขภาพหลังและสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงขึ้น สิ่งสำคัญคือการยืดหลังและการนวดอย่างเป็นประจำวันในทุกวัน แผ่นหลังของเรามีบทบาทสำคัญอย่างมากในการทำกิจกรรมประจำวัน แต่ก็มักถูกละเลยอยู่เสมอ ตั้งแต่การนั่งไปจนถึงการยืน ยกของ หรือแม้แต่เดิน แผ่นหลังของเราก็ทำงานอยู่ตลอดเวลา ในบทความนี้ เราจะมาสำรวจท่ายืดเหยียดที่จำเป็นซึ่งจะช่วยให้หลังมีสุขภาพดีขึ้น และเจาะลึกว่าการนวดหลังเป็นประจำจะมีประโยชน์อย่างไร

การยืดกล้ามเนื้อเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดวิธีหนึ่งในการดูแลสุขภาพโดยรวม

ท่าโยคะหลายๆ ท่าสามารถช่วยเสริมสร้างและผ่อนคลายกล้ามเนื้อหลังได้

ความรู้สึกผ่อนคลายหลังจากการนวดทำให้นอนหลับลึกมากขึ้น

เส้นทางสู่สุขภาพหลังที่ดี: การยืดกล้ามเนื้อ

การยืดกล้ามเนื้อเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดวิธีหนึ่งในการรักษาหลังให้แข็งแรง ทั้งช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น ลดอาการตึงของกล้ามเนื้อ กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต และยังเพิ่มประสิทธิภาพทางด้านกายภาพอีกด้วย

ทำไมต้องยืดหลัง

การยืดกล้ามเนื้อเป็นประจำมีประโยชน์มากมายต่อร่างกาย ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นได้อย่างดี แต่ยังช่วยเสริมท่าทางให้ดีขึ้นอีกด้วย การรักษาท่าทางให้ดีจะช่วยบรรเทาอาการตึงกล้ามเนื้อและเส้นเอ็น การยืดเหยียดจึงมีประโยชน์อย่างยิ่ง เนื่องจากสามารถช่วยป้องกันการบาดเจ็บที่มักเกี่ยวข้องกับการใช้แรงมากเกินไปหรือการเคลื่อนไหวกะทันหัน นอกจากนี้ การยืดกล้ามเนื้อยังมีบทบาทสำคัญในกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตภายในกล้ามเนื้อ ช่วยให้กล้ามเนื้อได้รับสารอาหารที่เพียงพอ และยังช่วยให้กล้ามเนื้อแข็งแรงและทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งส่งผลดีต่อสุขภาพกายโดยรวม

ท่ายืดเพื่อสุขภาพหลังที่ดี

ท่ายืดเหยียดที่เน้นไปที่กล้ามเนื้อหลังโดยเฉพาะและดีสุขภาพของกล้ามเนื้อมีอยู่หลายท่าด้วยกัน ดังนี้:

  1. ท่าเด็ก: ท่าโยคะนี้เหมาะสำหรับการยืดหลังส่วนล่าง เริ่มต้นด้วยการคุกเข่าทั้งสี่แล้วค่อย ๆ นั่งลงบนส้นเท้า พร้อมทั้งเหยียดแขนไปข้างหน้าบนพื้น
  2. ท่าแมว-อูฐ: อีกหนึ่งท่ายืดกล้ามเนื้อที่ใช้ทั้งกล้ามเนื้อหลังส่วนบนและส่วนล่าง เริ่มต้นด้วยวางมือบนพื้นและคุกเข่า จากนั้นสลับทำหลังโค้งและแอ่นหลังเหมือนแมวและอูฐตามลำดับ
  3. ท่างูเห่า: ท่ายืดนี้จะเน้นไปที่กล้ามเนื้อหลังส่วนล่างและบริเวณหน้าอก
  4. ท่านั่งงอไปข้างหน้า: ท่านี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการยืดกล้ามเนื้อหลังส่วนล่างและหลังส่วนบน เริ่มโดยการนั่งบนพื้น เหยียดขาไปข้างหน้าและโน้มตัวไปข้างหน้าเข้าหาเอว
  5. ท่าสุนัขก้มหน้า: ท่าโยคะแบบคลาสสิกที่ยืดทั่วร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่หลัง เริ่มต้นโดยทำท่าไม้กระดาน จากนั้นยกสะโพกขึ้นชี้เพดาน โดยวางมือไว้กับพื้นอย่างมั่นคง
  6. ท่านกพิราบ: ท่านี้จะยืดกล้ามเนื้อสะโพกและหลังส่วนล่าง เริ่มจากทำท่าสุนัขก้มหน้าก่อน และนำเข่าข้างหนึ่งไปข้างหน้าเข้าหามือ ขณะที่เหยียดขาอีกข้างไปข้างหลัง
  7. ท่าบิดกระดูกสันหลัง: นั่งลงโดยเหยียดขาออก งอเข่าข้างหนึ่งทับขาอีกข้าง จากนั้นบิดลำตัวไปทางเข่าที่งอ ซึ่งท่านี้จะช่วยยืดหลังทั้งส่วนบนและส่วนล่าง
  8. ท่าสะพาน: นอนหงายโดยงอเข่าและเท้าราบกับพื้น ยกสะโพกขึ้นจากพื้นโดยให้ไหล่แนบพื้น ท่านี้จะยืดหลังส่วนล่างและช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรง

Tips: RLAX เป็นผู้ให้บริการนวดใกล้ฉันในกรุงเทพ เชียงใหม่ ภูเก็ต หัวหิน และพัทยา จองออนไลน์ล่วงหน้าเพียง 90 นาที และรับบริการนวดกับเทอราปิสได้ถึงที่บ้าน โรงแรม และที่ทำงาน

ความสำคัญของการนวดหลัง

การนวดหลังเป็นอีกส่วนสำคัญในการรักษาสุขภาพหลังให้แข็งแรง นอกจากไม่เพียงแต่ช่วยบรรเทาอาการปวดหลังได้ทันที แต่ยังให้ประโยชน์ระยะยาวหากได้ทำเป็นประจำทุกวัน

ประโยชน์ของการนวดหลังเป็นประจำ

  • คลายกล้ามเนื้อที่ตึงเครียด: การนวดหลังช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ลดความตึงและไม่สบายตัว
  • กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด: แรงกดที่ใช้ระหว่างการนวดสามารถกระตุ้นการไหลเวียนเลือดช่วยให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น
  • เพิ่มความยืดหยุ่น: การนวดเป็นประจำสามารถเพิ่มเพิ่มความยืดหยุ่นของร่างกายได้ โดยการคลายกล้ามเนื้อและข้อต่อที่ตึง
  • เพิ่มความคล่องตัว: การนวดหลังจะช่วยเพิ่มความคล่องตัว โดยการบรรเทาความตึงเครียดของกล้ามเนื้อและเพิ่มความยืดหยุ่น
  • ช่วยให้นอนหลับได้สนิท: ความรู้สึกผ่อนคลายที่ได้จากการนวดหลังสามารถช่วยให้นอนหลับลึกและสบายมากขึ้น
  • การลดความเครียดและความวิตกกังวล: การนวดช่วยลดระดับฮอร์โมนความเครียด ซึ่งช่วยบรรเทาความตึงเครียดทั้งทางร่างกายและอารมณ์

ประเภทของการนวดหลังเพื่อสุขภาพหลังที่ดีขึ้น

การนวดที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพหลังนั้นมีอยู่หลายรูปแบบด้วยกัน:

  1. การนวดสวีดิช: การนวดประเภทนี้ใช้เทคนิคหลายอย่างในการสร้างความผ่อนคลาย เช่น การลูบไล้เป็นทางยาว การบีบคลาย การนวดเป็นวงกลม การสั่นสะเทือน และการเคาะ 
  2. การนวดเนื้อเยื่อส่วนลึก: เทคนิคการนวดนี้จะใช้จังหวะที่ช้ากว่าและแรงกว่าเพื่อเน้นไปที่ส่วนลึกของกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน
  3. การนวดกดจุด: การนวดรูปแบบนี้จะเน้นนวดที่บริเวณที่มีเส้นใยกล้ามเนื้อที่ขดตึง ซึ่งอาจเกิดในส่วนของกล้ามเนื้อที่ได้รับบาดเจ็บหรือใช้งานมากเกินไป

โดยสรุปแล้ว การส่งเสริมสุขภาพหลังไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด ด้วยการผสานท่ายืดกล้ามเนื้อเข้ากับกิจวัตรประจำวันเป็นประจำ คุณก็จะมีแผ่นหลังที่แข็งแรงและมีสุขภาพดีขึ้นแล้ว

Go to Top